สถานการณ์โควิดรอบใหม่ จะทำให้กลับมาเรียนออนไลน์อีกครั้งหรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าการเรียนออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเรียน หรือแม้แต่ตัวครูผู้สอนเองก็ตาม แต่หากสถานการณ์ของโควิด 19 มันกลับมารุนแรงอีกครั้ง ประเทศไทยของเราก็คงเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องกลับมาใช้แผนเดิมในการศึกษา ซึ่งต้องบอกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา การเรียนลักษณะนี้สร้างความงุนงง และความสับสนให้กลุ่มผู้เรียนอย่างมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าประเทศไทยของเรา มันยังไม่พร้อมสำหรับระบบการศึกษาแบบนี้หรือเปล่า และหากกลับมาใช้มาตรการเดิม ในการเรียนการสอนอีกครั้ง ปี 2021 จะมีการรับมือ และการเตรียมความพร้อมอย่างไร
แนวทางการศึกษาไทย 2021 เมื่อโควิดระบาดอีกครั้ง
ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีทั่วราชอาณาจักรไทย ว่าโควิด 19 ที่ห่างหายเราไปสักพักใหญ่ ๆ ได้กลับมาอาละวาดบ้านแตกอีกครั้ง แถมการกลับมาครั้งนี้ยังกลับมาแบบสมศักดิ์ศรีของความร้ายกาจ เพราะสุ่มตรวจไป 1000 คน พบติดเชื้อไปแล้ว 500 กว่าคน และยอดสะสม ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลดลงในแต่ละวัน แน่นอนว่าสิ่งแรกที่กระทบ คือการใช้ชีวิตของผู้คน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และอื่น ๆ ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ สิ่งที่ต้องตามมาหลังจากนี้ ก็คือมีการล็อคดาวน์อีกครั้ง ซึ่งมันจะกระทบกับการศึกษา ของเด็กทุกวัยแน่นอน
แน่นอนล่ะว่าการล็อคดาวน์ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของการศึกษาหรอก เพราะเดี๋ยวนี้โลกของเรามันเปลี่ยนไปแล้ว เราสามารถสอนกันได้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ว่าวิกฤติโควิด-19 ทำให้เราต้องรีบเปลี่ยนแปลงรูปแบบการศึกษาอย่างฉับพลัน เราไม่มีเวลาเตรียมตัวเรื่องอุปกรณ์ เทคโนโลยี และกระบวนการการสอน การจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนสอนไปสู่ระบบออนไลน์โดยทันทีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้สอนก็จำเป็นต้องปรับวิธีการสอนจากรูปแบบเดิม ๆ ผู้เรียนก็จำเป็นจะต้องปรับวิธีการเรียนเช่นกัน รวมถึงต้องมีการปรับวิธีการประเมินและการวัดผลให้มีความเหมาะสมกับการสอนออนไลน์

ซึ่งบุคคลที่ได้เปรียบ อาจจะเป็นกลุ่มที่เรียนในระดับชั้นที่สูงหน่อย อย่างมัธยมหรือมหาวิทยาลัย เพราะคนกลุ่มนี้ อยู่ในสาขาด้านเทคโนโลยีก็อาจจะมีความคุ้นเคยในการใช้เครื่องมือต่าง และอาจปรับเปลี่ยนได้รวดเร็วกว่า นอกจากความพร้อมเรื่องเทคโนโลยี ทักษะและกระบวนการสอน บางอย่างก็ต้องจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไป ตั้งแต่การสอนและวิธีการประเมินผลที่มีความยากกว่าเดิม ทั้งในแง่ข้อสอบและการทำสอบออนไลน์ที่ต้องมั่นใจได้ว่าผู้เรียนทำการสอบด้วยตัวเอง อีกทั้งผู้เรียนก็ต้องมีความตั้งใจในการเรียน มีความคิดที่จะหาความรู้มากกว่า เพียงแค่จะเรียนเพื่อสอบผ่านเท่านั้น
การแก้ปัญหาในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ทำไม่ง่ายเลย เพราะเด็กบางคนเรียนในห้องเรียน ที่มีอาจารย์คอยคุมเข้ม คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด บางครั้งเขายังต้องการคำอธิบายแบบซ้ำ ฉะนั้น การเรียนออนไลน์ที่โต้ตอบกันได้น้อยมาก ๆ จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี และไม่ตอบโจทย์การศึกษาของไทยเท่าที่ควร หากท่านลองย้อนกลับไปถามบุตรหลานของท่าน เกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ว่ามันเป็นอย่างไร เข้าใจมากน้อยแค่ไหน เราเชื่อว่าเกินร้อยละ 80 ต้องบอกว่าไม่เข้าใจ แต่เน้นส่งงานตามที่อาจารย์บอก เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนแน่นอน
คำถามคือแล้วถ้าเราต้องกลัวเข้าสู่การเรียนออนไลน์อีกครั้ง ปีใหม่ 2021 เนื่องจาก การศึกษาสถานการณ์โควิด จะมีการพัฒนาและปรับปรุงในส่วนนี้อย่างไร ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มนักเรียนได้อย่างเต็มร้อย บางครั้งกลุ่มผู้สอนหรือสถาบันต่าง ๆ อาจจะต้องรับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับนักเรียนหรือผู้ที่เรียนใช่หรือไม่ ถึงจะสามารถหาจุดโฟกัสตรงกลางได้
อีกอย่างคือเรื่องอุปกรณ์ในการเรียนออนไลน์ เราจะเห็นแล้วว่าวิกฤตครั้งที่ผ่านมานั้น มีนักเรียนหลายคน ที่ไม่ได้รับการเรียนอย่างเพื่อน เนื่องจากสภาพทางบ้านไม่พร้อม ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีอินเตอร์เน็ต และอีกมากมาย ซึ่งตรงนี้เราต้องมาคุยกัน ว่าจะทำอย่างไร ให้เด็กเหล่านี้สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ แบบไร้ซึ่งปัญหา ต้องมีการจัดกองทุนเพื่อจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่จำเป็นให้กับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือไม่ เพราะหากไม่แก้ปัญหานี้แล้ว การที่จะเปลี่ยนการเรียนการสอนไปเป็นระบบออนไลน์ทั้งหมด ก็เหมือนกับเราทิ้งคนบางกลุ่มไว้ข้างหลัง ส่วนทางรัฐบาลและกระทรวงการศึกษาจะจัดการอย่างไรนั้น เราคงต้องรอติดตามกันอย่างต่อเนื่อง อ่านเพิ่มเติม papa-it